นิทรรศการ PASSIONATE/LOVE/SHOT
นิทรรศการ Passionate Love/Shot นิทรรศการภาพถ่ายโดย 3 ศิลปิน ได้แก่ ธราธิป นัทธีศรี, ยงยุทธ พินิจพงศ์ และ นพพีระ โบศรี (สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงาน)
4 – 30 ตุลาคม 2562
ณ พื้นที่นิทรรศการชั้น 1 #หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน
(พิธีเปิด วันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม 2562 เวลา 17.00 น.)
Passionate Love/Shot – A Photography Exhibition by Tharatip Nutteesri, Yongyouth Pinijpong and Noppera Bosri (in collaboration with Office of Contemporary Art and Culture)
4 – 30 October 2019
1st Floor (Main Hall), Ratchadamnoen Contemporary Art Center
(Opening Reception: 4th October 2019 5 PM onwards)
– แนะนำนิทรรศการ –
วันศุกร์ 4 ต.ค. นี้ เวลา 17.00 น ที่หอศิลป์ราชดำเนิน มีงานแสดงภาพถ่าย ของ 3 ศิลปิน ที่เรียกว่าศิลปิน เพราะเขาจบจากคณะจิตรกรรม ม. ศิลปากร ด้วยกันทั้งหมด เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกันมา
ที่คณะจิตรกรรมฯ ไม่มีวิชาถ่ายภาพ แต่หลายคนที่จบจากคณะจิตรกรรมแล้ว ไปทำงานเป็นช่างภาพได้ดีมีชื่อเสียง อาทิเช่น นภดล โชตะสิริ, นภดล ขาวสำอางค์, ชิรา วิชัยสุทธิกุล เป็นต้น เมื่อในห้องเรียนเขาไม่สอนถ่ายภาพแล้ว เขาไปเอาความรู้มาจากไหน คนเราเมื่อสนใจ อยากรู้ต้องแสวงหา บางคนไปเดินตามครูเพื่อเอาความรู้แบบครูพักลักจำ บางคนขยันทำ ขยันผิด และขยันจำ หรือแม้แต่ซื้อตำรามาเปิดดูเอง
ในคณะจิตรกรรมฯ มีหลายวิชาที่เราต้องเรียน เช่นวิชาองค์ประกอบศิลป์ มันพื้นฐานที่ทำให้เราได้เรียนรู้ element ต่างๆในงานศิลปะ แล้วนำเอาสิ่งเหล่านั้นมาใช้จัดการในการสร้างงานศิลปะ เราเรียนวาดเส้น เพื่อเรียนรู้ แสง สี น้ำหนัก เงา สัดส่วน ระยะ ผิว ทุกอย่างในศิลปะมีในงานภาพถ่ายก็มี เพียงแต่เราถ่ายภาพด้วยเครื่องมือ คือกล้องถ่ายภาพ แต่ถ้ามีกล้อง แต่มองไม่เห็นภาพมันก็ไม่รู้ว่าถ่ายอะไร ดังนั้นงานแสดงภาพถ่ายของ ผองพี่น้องจิตรกรรมฯ จึงเป็นอะไรที่มีความต่างจากงานภาพถ่ายอื่นๆ มีความน่าสนใจ มันอาจไม่ใช่ภาพถ่ายที่เป็นคุณภาพแบบภาพถ่ายที่ช่างภาพแสดง แต่มันเป็นงานศิลปะที่ใช้การถ่ายภาพเป็นเครื่องมือ
เรามารู้จัก กับ 3 ศิลปิน กันสักนิด ก่อนจะไปชมผลงานของพวกเขา
คนแรก ธราธิป นัทธีศรี เรียนเอกจิตรกรรม สมัยเรียนทำงานจนได้รับรางวัลจากงานประกวดหลายครั้ง เป็นประธานนักศึกษา เรียนจบออกไป เข้าทำงานใน บริษัทใหญ่ของประเทศ เปลี่ยนเส้นทางเป็นนักการตลาด ทำหน้าที่สร้างแบรนด์สินค้าจนติดตลาดยอดขายมากมาย แต่เมื่อใจมันเรียกร้อง ว่าศิลปะมันอยู่ในสายเลือด เขาก็วางมือจากงานที่ทำกลับมาทำงานศิลปะ อีกครั้ง จึงเป็นอะไรที่เดิมพัน ครั้งสำคัญกับเส้นทางของเขาที่เขารัก
คนที่สอง ยงยุทธ พินิจพงศ์ หรือ ”จือ“ ของเพื่อนๆ พี่ๆ “จือ” ทำมาทุกอย่าง หลังจากจบประติมากรรม คณะจิตรกรรมแล้ว เขาตามฝันตัวเองเข้าสู่วงการโฆษณา ทำไปจนถึงเวลาจึงตอบกับตัวเองว่า ไม่ได้เป็นอาชีพที่ตัวเองจะทุ่มเทอีกต่อไป จึงเดินออกมา แล้วไปร่วมกับเพื่อนๆ สร้างกิจกรรมทางศิลปะที่สามารถหาเงินได้ด้วย อาชีพอิสระ ที่รับทำทุกอย่าง ที่เกี่ยวข้องกับศิลปะ ทำแล้วก็เบื่อ เพราะต้องตามใจคนอื่น กลับไปอยู่ต่างจังหวัดเงียบๆ แบบคนรักสงบ เป็นเกษตรกรก็ทำ ขายของให้กับเกษตรกร ก็ทำ แต่ในที่สุดทนจิตใจตัวเองที่เรียกร้องไม่ได้ ก็ทิ้งทุกอย่างของตัวเองแล้วหิ้วกระเป๋ากลับมาเริ่มต้นใหม่ จับกล้องถ่ายรูป ถ่ายทุกวัน วันละเป็นพันรูป ดีนะที่เป็นดิจิตอล เลยไม่เสียค่าใช้จ่ายมากนัก ใครอยากให้ช่วยถ่ายอะไรก็บอก “จือ” เขาถ่ายได้หมด ฟรีก็ได้ ถ้าเป็นพี่น้องกัน เขาถ่ายภาพแล้วโพสต์ ลงโซเชียล ทุกวัน จนถ้าวันไหนไม่เห็นภาพของ “จือ” ต้องมีอะไรผิดปกติ แน่นอน เรียกว่าเห็นจนชิน จนรุ่นน้องเห็นความตั้งใจ ยกกล้อง อุปกรณ์ ราคาหลายแสนให้ไปถ่าย เขาจึงยิ่งถ่ายมากกว่าเดิม วันละหลายพันภาพ เขาได้เรียนรู้ช่องทางสื่อสาร ถ่ายภาพแล้วส่งภาพถ่ายนั้น ไปร่วมประกวดภาพถ่ายในโซเชียลได้รางวัลทุกวัน บางวันหลายรางวัล จนแทบจำไม่ได้ งานครั้งนี้จึงมีภาพถ่ายของเขาให้เราได้ตามดูกันมากมาย
คนสุดท้าย นพพีระ โบศรี หรือ ดุลย์ ของเพื่อนๆ เขาเป็นจิตรกรมือทอง เขียนภาพดีมากๆ หาเงินส่งตัวเองเรียนมาตลอด จนบางครั้งลืมไปว่าเรียนอยู่เพราะทำงานมาก จนกระทั่งมีกิจการของตัวเอง ทำให้ในวงการโฆษณารู้จักเขาดี เขาคลุกคลีอยู่ในวงการโฆษณามาจากยุคที่ยังไม่มีดิจิตอล มาจนถึงยุคที่ต้องเขียนภาพในจอคอมพิวเตอร์อันเป็นยุคของการเปลี่ยนแปลงที่บางคนถึงกับยอมถอยแต่สำหรับเขา ยังยืนหยัดอยู่ได้ เพราะการเรียนรู้และปรับตัว มีอีกสองอย่างที่ดุลย์ทำได้ดี คือ ถ่ายภาพและร้องเพลง โฆษณาเขาทำเพื่อเลี้ยงชีพ ถ่ายภาพ ทำเพื่อตอบตัวเองว่าเขาชอบเขารักมัน ร้องเพลงเป็นชีวิตที่มีความสุข เขาทำทั้งสามอย่างมาตลอด หลายคนคงไม่รู้ว่าภาพการ์ตูนล้อ คนสำคัญของไทยหรือของโลกเป็นฝีมือของดุลย์ ปกนิตยสารหลายฉบับใช้งานของเขา เขาเก่งกาจเกินบรรยาย หลายคนไม่ทราบว่าภาพถ่ายหลายๆภาพในช่วง 5-6 ปีของการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองมาจากฝีมือของเขา เสียงเพลงบางเพลงดุลย์เป็นผู้ร้อง เราหลับตาแล้วไม่รู้เลยว่า ใครคนนั้นที่เสียงดี นุ่มนวล นั้นคือ ดุลย์ งานครั้งนี้เขาทำงานร่วมแสดงกับพี่ๆ จากคณะเดียวกัน ความเป็นน้องก็ต้องเกรงใจหน่อย แต่เราน่าจะเห็นได้ว่าเขาทำงานร่วมกันอย่างกลมกลืนมากกว่า
ดังนั้นจึงไม่น่าพลาดงานนิทรรศการภาพถ่ายนี้ Passionate Love/Shot. ที่หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน เปิดงานวันศุกร์ที่ 4 ตุลาคม 17.00 น. (งานแสดง 4-30 ตุลาคม) นอกจากนี้ ยังมีศิลปินรับเชิญ ที่เป็นเพื่อน , พี่ ๆ ของพวกเขาด้วย อาทิ นภดล โชตะสิริ, อำมฤทธิ์ ชูสุวรรณ, ศักดิวุฒิ วิเศษมณี, จิตต์สิงห์ สมบุญ, จารุต วงศ์คำจันทร์. มาร่วมแสดงด้วย งานคงไม่เล็กแล้วล่ะ พลาดไม่ได้เสียแล้ว.
อำมฤทธิ์ ชูสุวรรณ
รองอธิการบดีฝ่ายศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร